สหรัฐฯ ได้ประกาศบังคับใช้ข้อจำกัดการเดินทางกับเจ้าหน้าที่ยูกันดา เพื่อแสดงท่าทีไม่เห็นด้วยต่อการออกกฎหมายต่อต้าน LGBTQ ที่ลงนามโดย โยเวรี มูเซเวนี ประธานาธิบดียูกันดาเมื่อเดือนที่แล้ว
กฎหมายนี้ถูกสากลโลกประณามว่า เป็นหนึ่งในกฎหมายที่รุนแรงที่สุดในโลก โดยมีการกำหนดโทษประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิตสำหรับพฤติกรรมทางเพศต่าง ๆ ต่อเพศเดียวกันรวมถึงมีโทษจำคุกสูงสุด 20 ปีหากมีการ “หาคน โปรโมต และจัดหาทุน” สำหรับกิจกรรมของเพศเดียวกัน
ยูกันดาประกาศใช้ “กฎหมายต่อต้าน LGBTQ+ ที่โหดร้ายที่สุดในโลก”
ส่องเทรนด์ที่อยู่อาศัยน่าจับตามองของชาว LGBTQIAN+
Pride Month : ฟังเสียง “ทูตนฤมิต” ตัวแทน LGBT เมื่อการเรียกร้องคือชีวิต
และใครก็ตามที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐาน “พยายามทำให้ปัญหาการรักร่วมเพศรุนแรงขึ้น” จะต้องเผชิญกับโทษจำคุก 14 ปีคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
แมทธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่า มาตรการดังกล่าวเป็นการตอบสนองต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชน “รวมถึงบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ”
นอกจากนี้ ยังอ้างถึงกฎหมายที่มีชื่อว่าพระราชบัญญัติต่อต้านการรักร่วมเพศปี 2023 โดยกล่าวว่ากระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ “แก้ไขคำแนะนำการเดินทางไปยูกันดาแก่พลเมืองสหรัฐฯ เพื่อเน้นย้ำถึงความเสี่ยงที่บุคคล LGBTQI+ หรือผู้ที่มองว่าเป็น LGBTQI+ อาจถูกดำเนินคดี จำคุกตลอดชีวิต หรือประหารชีวิต ตามกฎหมายยูกันดา”
มิลเลอร์บอกว่า “สหรัฐฯ สนับสนุนชาวยูกันดาอย่างแข็งขัน และยังคงมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการเคารพสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐานในยูกันดาและทั่วโลก”
ทั้งนี้ ไม่มีการระบุอย่างชัดเจนว่า เจ้าหน้าที่คนใดบ้างที่จะอยู่ภายใต้ข้อจำกัดนี้
การรักร่วมเพศเป็นสิ่งผิดกฎหมายในประเทศแถบภูมิภาคแอฟริกาตะวันออก ซึ่งมักมีความอนุรักษ์นิยมและเคร่งศาสนา และผู้สังเกตการณ์กล่าวว่า กลุ่มรักร่วมเพศต้องเผชิญกับการเหยียดหยามและการคุกคามจากกองกำลังความมั่นคงในหลายประเทศ
กฎหมายยังกำหนดโทษปรับสำหรับสื่อและองค์กรเอกชนที่ส่งเสริมกิจกรรม LGBTQ โดยเจตนา
เมื่อเดือนที่แล้ว ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ เรียกความเคลื่อนไหวล่าสุดของรัฐบาลยูกันดาว่า “เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนสากลอย่างน่าเศร้า” และขู่ตัดความช่วยเหลือและดำเนินมาตรการคว่ำบาตรต่าง ๆ
เรียบเรียงจาก Al Jazeera
ภาพจาก AFP